คณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาและวัฒนธรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จริงๆแล้วภูมิใจกับทุกผลงานที่ผ่านมาเพราะทุกๆผลงานพิมตั้งใจทำอย่างเต็มที่และดีที่สุด แต่ถ้าต้องเลือกมี 3 ผลงานหลัก
1. ในฐานะนักพูด พิมได้รับเลือกเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยและประเทศไทยเข้าร่วมการประชุมเยาวชนนานาชาติ The 14th ASEAN+3 Educational Forum and Young Speaker Contest ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในการประชุม เยาวชนที่เป็นตัวแทนจากประเทศต่างๆต้องร่วมกันระดมความคิดเพื่อแก้ไขปัญหาการเชื่อมโยงกันของอาเซียน ส่วนในการแข่งขันนักพูดทุกคนต้องเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยพิมได้เสนอไปว่า ในฐานะผู้นำในอนาคต เรามีหน้าที่ที่จะต้องเป็นผู้นำทางความคิด ผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลง และผู้นำด้านการกระทำ สุดท้ายพิมได้รับารตัดสินให้เป็นนักพูดยอดเยี่ยมอันดับที่ 4 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนั้นนโยบายที่นำเสนอได้รับการโหวตให้เป็น joint statement ของการประชุม
2. ในฐานะนักโต้สาระวาทีภาษาอังกฤษ ในหลายๆปีที่ผ่านมาพิมได้รับเชิญเป็นวิทยากรสอน critical thinking การพูด การสื่อสาร และ การนำเสนอผลงาน ให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้มีโอกาสได้เปลี่ยนชีวิตเด็กด้อยโอกาสหลายๆคน ทำให้เด็กๆมีความกล้าที่จะคิด กล้าแสดงออก และกล้าพูดมากขึ้น ประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านมา ทำให้พิมได้รับการติดต่อจาก founder ของ Harvard Debate Council ให้ไปสอนใน workshop ในช่วง summer ช่วงเวลาที่อยู่ที่มหาวิทยาลัย Harvard พิมได้สอนในส่วนของ Public Speaking and Argumentation ซึ่งทำให้พิมได้รับประสบการณ์มากมายและได้เรียนรู้การทำงานอย่างแท้จริง
3. ในฐานะผู้นำเยาวชนรุ่นใหม่ พิมได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนนานาชาติ One Young World Summit โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,000 คน จาก 196 ประเทศ การประชุมในครั้งนี้ทำให้พิมได้รับฟังสุนทรพจน์สดๆจากสุดยอดผู้นำ และคนดังชองโลก อาทิเช่น โคฟี่ อานัน, มูฮัมหมัด ยูนูส และ เซอร์บ๊อบ เกลดอฟ มากกว่านั้นคือพิมได้เป็นหนึ่งในคนไทยไม่กี่คนที่ได้รับโอกาสให้พูด ให้ถามคำถามคนดังของโลก และถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ความภูมิใจที่สุดไม่ได้อยู่ที่การเข้าร่วม แต่คือการที่พิมได้ทำให้ครอบครัว ประเทศไทย มหาวิทยาลัย และ โรงเรียนภูมิใจ
ตอนที่เรียนอยู่ที่เอกตรา พิมเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมคุณครูถึงต้องบังคับให้ทำกิจกรรมหลายๆอย่างที่ไม่อยากทำ บังคับให้เข้าร่วมงานต่างๆที่น่าเบื่อ และสั่งงานต่างๆที่พิมมองว่าไร้สาระ พอมองย้อนกลับไปพิมกลับรู้สึกว่ากิจกรรมต่างๆที่พิมได้ทำในโรงเรียน ถึงแม้บางอย่างเราจะรู้สึกว่าไร้สาระ น่าเบื่อ และเสียเวลา จริงๆแล้วมีประโยชน์มากนะ และ เป็นเวทีที่ฝึกพิมให้มีความสามารถ มีพื้นฐานที่ดีอย่างทุกวันนี้
โรงเรียนสารสาสน์เอกตราเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในชีวิตของพิม โรงเรียนให้โอกาสพิมเสมอและสนับสนุนเสมอไม่ว่าจะอยากทำอะไรก็ตาม และพิมคิดว่าไม่น่าจะมีโรงเรียนไหนอีกแล้วที่จะผลักดันและสนับสนุนเด็กธรรมดาคนหนึ่งได้มากขนาดนี้ พิมได้โต้สาระวาทีภาษาอังกฤษและก้าวขึ้นมาเป็นแนวหน้าของประเทศ ได้เป็นนักพูดยอดเยี่ยมที่นานาชาติยอมรับ ได้รับโอกาสดีๆต่างๆมากมาย เพราะโรงเรียนสนับสนุนและคอยเป็นกำลังใจเสมอ พิมอยากกราบขอบพระคุณ ผอ. และคุณครูทุกๆท่านที่ให้โอกาส ที่สนับสนุน ที่ผลักดันเด็กนักเรียนคนนี้ พิมอยากบอกว่าที่พิมมาได้ไกลขนาดนี้เพราะพิมเป็นผลผลิตของโรงเรียน พิมภูมิใจมากๆที่ได้เป็นนักเรียนของสารสาสน์เอกตรา
ถึงน้องๆทุกคน พิมเชื่อว่าเมื่อน้องๆอ่านบทสัมภาษณ์นี้ น้องๆคงคิดว่าเพระาพิมเก่งมาตั้งแต่ต้นหรือเปล่า พิมโชคดีหรือเปล่า พิมฟลุคหรือเปล่า พิมอยากจะบอกว่าเปล่าเลยพิมแค่พยายามและตั้งใจทำทุกๆอย่างที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด พิมอยากให้น้องๆมองพิมเป็นตัวอย่างมากกว่ามองว่าพิมพิเศษและมีความสามารถมากมาย เพราะพิมก็เป็นแค่เด็กธรรมดาๆ ที่เคยเป็นนักเรียนของเอกตราคนหนึ่ง แต่สิ่งหนึ่งที่พิมมีคือความมุ่งมั่นและความตั้งใจ พิมเชื่อมาตลอดว่าทุกๆคนมีสิ่งที่วิเศษซ่อนอยู่ในตัว อยากให้น้องๆค้นพบสิ่งวิเศษนั้นในตัวเองและนำมันออกมาใช้ให้ดีที่สุด
โอกาสมักจะไม่ค่อยเข้ามาหาเราบ่อยๆ ถ้าเราอยากได้โอกาส เราต้องสร้างโอกาสให้ตัวเราเอง ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จ เราต้องลงมือทำ และถ้าเราอยากให้ฝันกลายเป็นจริง เราต้องเชื่อมั่นในจัวเอง จำไว้ว่าในเมื่อเกิดมาแล้วเราควรใช้ชีวิตให้คุ้มโดยการทำสิ่งดีๆ สิ่งที่เป็นประโยชน์ อย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไม่ทำอะไรสักอย่าง สุดท้ายขอให้น้องๆทุกคนมีความสุขกับชีวิจในโรงเรียนค่ะ