โรคมือ เท้า ปาก (Hand Foot Mouth Disease: HFMD)
You are here: Home/ News / Current Page
จดหมายผู้ปกครอง เรื่อง แนวทางการเฝ้าระวัง และ ป้องกันโรคมือ เท้า ปาก |
โรคมือ เท้า ปาก (Hand Foot Mouth Disease: HFMD) เป็นโรคที่มักระบาดในช่วงฤดูฝนที่อากาศเย็นและชื้น ดังนั้นในช่วงเดือนนี้ จึงเป็นช่วงที่โรคมือ เท้า ปาก (Hand Foot Mouth Disease: HFMD) แพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น ทางโรงเรียนมีความห่วงใยในสถานการณ์การระบาดของโรคดังกล่าว จึงได้ประสานงานกับ ทางศูนย์สาธารณสุข 55 ในการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังการอุบัติของโรค
โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่มเอนเทอโรไวรัส (Enterovirus) ซึ่งตัวที่สำคัญคือเชื้อ Enterovirus 71 (EV71) โอกาสการได้รับเชื้อจะมาจากสถานที่สาธารณะทั่วไป เช่น โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก สวนสนุก ห้องน้ำตามสถานที่ต่างๆ เป็นต้น เด็กที่เป็นโรคมือ เท้า ปาก ส่วนใหญ่จะอายุต่ำกว่า 10 ปี โดยจะพบมากใน เด็กเล็ก หลังจากรับเชื้อ 3-6 วัน เด็กจะเริ่มมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย อาจมีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ อาเจียนหรือถ่ายเหลวทร่วมด้วย จากนั้น 1-2 วัน จะพบแผลตื้นๆคล้ายร้อนในบริเวณกระพุ้งแก้ม เหงือก และลิ้น จึงทำให้เด็กอยากทานอาหารหรือดื่มนมน้อยลง และมีผื่นตามฝ่ามือ นิ้วมือและฝ่าเท้า บางครั้งอาจจะพบที่บริเวณก้นด้วย ซึ่งอาการจะทุเลาและหายเป็นปกติภายใน 7 – 10 วัน แต่ถ้าติดเชื้อสายพันธุ์ที่รุนแรงอาจเกิดอาการแทรกซ้อน เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ อัมพาต กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบทำให้เสียชีวิตได้
ในส่วนมาตรการของโรงเรียนนั้น โรงเรียนได้มีแนวทางการเฝ้าระวังและป้องกันโรคมือ เท้า ปาก ดังนี้
1. ตรวจเด็กนักเรียนก่อนเข้าห้องเรียน ถ้ามีอาการป่วยหรือสงสัยว่ามีไข้ (อุณหภูมิ 37 องศาขึ้นไป) จะนำนักเรียนไปตรวจเช็คอาการอย่างละเอียดที่ห้องพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง หากพบว่าเด็กมีแนวโน้มจะเป็น โรคดังกล่าว ทางโรงเรียนจะติดต่อให้ผู้ปกครองรับนักเรียนกลับบ้านและแนะนำให้ผู้ปกครองพานักเรียนไป พบแพทย์โดยทันที เพื่อตรวจรักษาโรคได้ตั้งแต่เบื้องต้น
2. หากพบว่านักเรียนเป็นโรคดังกล่าว โรงเรียนจะขอความจากร่วมมือจากผู้ปกครองให้นักเรียน หยุดพักผ่อนที่บ้านจนกว่าอาการจะหายสนิท พร้อมกับแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ เพื่อควบคุมและป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของโรคต่อไป
3. ดูแลความสะอาดของห้องเรียน อุปกรณ์ของเล่นภายในห้อง รวมทั้งสิ่งของต่างๆที่นักเรียน ใช้ร่วมกัน รวมทั้งสนามเด็กเล่นของโรงเรียน โดยการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกวัน และในส่วนของห้องน้ำนักเรียนจะทำความสะอาดทุก 2 ชั่วโมง
4. จัดเตรียมแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือตามจุดต่างๆ เช่น หน้าห้องเรียน โรงอาหาร ห้องน้ำ ตลอดจนการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่ห้องเรียนทุกสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ทุกๆวัน เมื่อนักเรียนเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านและโรงเรียน หรือหลังจากหยุด เสาร์-อาทิตย์ ย่อมมีโอกาสรับเชื้อจากแหล่งอื่นๆได้ แม้โรงเรียนจะมีมาตรการป้องกันใดๆ แต่ก็เป็นสถานที่เปิด ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพียงแต่ต้องคอยตั้งรับและกำจัดเชื้อที่มีเข้ามาใหม่ทุกวันตลอดเวลา